การเสริมจมูก
การเสริมจมูก เป็นการทำศัลยกรรมความงามชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุคปัจจุบันนี้ เสริมจมูก ทำได้ทั้งเพศชาย และเพศหญิง ที่มีอายุครบ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งการทำศัลยกรรมจมูก ถือว่าเป็นหัตถการแรกเลย ของการเริ่มต้นทำศัลยกรรมความงาม เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางใบหน้า หลังทำเสร็จ คนไข้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าโดยรวม ทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
เสริมจมูก คืออะไร ?
เสริมจมูก ( Rhinoplasty ) คือ การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งประเภทหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมาก ในการเริ่มต้นทำศัลยกรรมของคนไทย เพราะการผ่าตัดเสริมจมูก เป็นการผ่าตัด เพื่อตกแต่งรูปทรงจมูกให้โด่ง สวยงามขึ้น ด้วยการเสริมวัสดุ เช่น ซิลิโคน ( Silicone ), กอร์เท็กซ์ ( Gore-tex ), เม็ดพอร์ ( Medpor ) หรือกระดูกอ่อน เป็นค่านิยมด้านการเสริมความงาม การเสริมโหงวเฮ้ง ช่วยแก้ไขโครงสร้างจมูก ที่มีปัญหาความบกพร่อง แต่กำเนิด และอุบัติเหตุได้
ใครที่เหมาะสำหรับการ เสริมจมูก
- คนไข้ ควรมีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เพราะในช่วงนี้ จมูกผู้ชาย และผู้หญิง จะมีโครงหน้า จะเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
- ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากการผ่าตัด จะเสียเลือด ในปริมาณหนึ่ง และมีการกระตุ้น ความตื่นกลัว ในบางคน มีผลต่อการตั้งครรภ์ และยาบางตัว มีผลผ่านทางน้ำนม สู่ลูกได้ด้วย
- ไม่แนะนำให้ใช้ยาป้องกัน การแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคหลอดเลือดผิดปกติต่าง ๆ เช่น เส้นเลือดตีบ เพราะเป็นการผ่าตัด ตั้งแต่เล็กจนไปถึงใหญ่ จึงทำให้เลือดออกน้อย และมากตามลำดับ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ที่อาจจะส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ เพราะโรคต่าง ๆ เหล่านี้ มีผลต่อการไหลเวียนของเลือดอย่างชัดเจน
- หากเป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ โรคติดเชื้อ เช่น HIV เป็นต้น ควรรักษาให้หาย ก่อนเสริมจมูก เพราะการผ่าตัด ที่จมูก แพทย์ และผู้ช่วย ที่ทำหัตถการ จะต้องสัมผัสต่อสารคัดหลั่งของคนไข้ และมีโอกาสเสี่ยงได้รับเชื้อเหล่านี้ได้
เสริมจมูก แบบเปิด เหมาะสำหรับใคร ?
การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) เหมาะกับคนไข้ ที่มีโครงสร้างสันจมูกนูน เช่น ฮัมพ์สูง จมูกกว้าง ฐานจมูกใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน เคยเสริมจมูกแบบปิดมาแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ ตามความต้องการของคนไข้ หรือคนไข้ ที่ต้องการเสริมจมูก เป็นทรงหยดน้ำ นอกจากนั้นการเสริมจมูกแบบเปิด ยังสามารถใช้ในกรณี ที่มีความผิดปกติของจมูกร่วมด้วย เช่น จมูกสั้นเกินไป จมูกงุ้ม ดั้งจมูกโค้ง โก่ง งอ เป็นต้น
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบเปิด
เนื่องจากการเสริมจมูกแบบเปิด เป็นการผ่าตัด โดยการเปิดเข้าไปแก้ไขโครงสร้างด้านในของคนไข้โดยตรง ช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างได้อย่างตรงจุด และตรงกับปัญหาของคนไข้มากที่สุด โดยมีโครงสร้างพื้นฐาน ที่แข็งแรงตอบโจทย์ได้มากกว่า
การเสริมจมูก แบบปิด คืออะไร ?
เทคนิคการเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) เป็นการเสริมจมูกให้โด่งขึ้น ด้วยการเสริมซิลิโคน หรือวัสดุอื่น ๆ ที่คล้ายกัน เข้าไปแทน ด้วยวิธีการกรีดภายในโพรงจมูก โดยไม่ต้องการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อนของจมูก จึงซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ อาจจะไม่เท่าทรงจมูก ที่ได้รับการผ่าตัดแบบเปิด คนไข้ส่วนใหญ่ นิยมใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู หรือเนื้อเยื่อไขมัน มารองบริเวณปลายจมูก เพิ่มความหนาของเนื้อเยื่อ ลดปัญหาปลายจมูกทะลุ
เสริมจมูกแบบปิด เหมาะสำหรับใคร ?
การเสริมจมูกแบบปิด เหมาะสำหรับคนไข้ ที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรากฐานจมูกมาก หรือคนไข้ ที่มีโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว และต้องการเพิ่มความโด่ง หรือยืดส่วนปลายยาวขึ้น เพื่อให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น แต่วิธีการเสริมจมูกแบบปิด มีข้อจำกัดในเรื่องต่าง ๆ เช่น ดั้งจมูกโค้ง โก่ง งอ จมูกใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยง ที่ซิลิโคน จะทำให้เนื้อเยื่อบาง และทะลุได้ ควรเลือกแพทย์ ที่มีความชำนาญ ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับเนื้อ และโครงสร้างเดิมของคนไข้ จะได้ผลลัพธ์ชัดเจนมากที่สุด และลดความเสี่ยง ต้องมาแก้ไขทีหลัง
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบปิด
- ได้ทรงจมูกธรรมชาติ จมูกทรงเกาหลี ในคนไข้ ที่มีความต้องการแบบธรรมชาติ หรือมีโครงสร้างเดิมดีอยู่แล้ว
- แผลเล็ก บวมช้ำน้อย (ขึ้นอยู่กับบางคน) สามารถแต่งหน้า หรือใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้นมากนัก
- เสริมจมูกราคาไม่สูง เท่าการเสริมจมูกแบบเปิด ซึ่งราคาขึ้นอยู่กับเทคนิค อุปกรณ์จำพวกซิลิโคน และฝีมือของแพทย์ ที่ทำการผ่าตัดด้วยเช่นกัน
- ใช้เวลาในการทำน้อย ประมาณ 30-40 นาที ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของคนไข้แต่ละคน และฝีมือความประณีตของศัลยแพทย์ แต่ละคนด้วยเช่นกัน
หลังเสริมจมูกใน 24 ชั่วโมง ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- รับประทานยาแก้ปวดหลังทำ ทุก 4-6 ชั่วโมง และยาลดบวม รวมถึงยาฆ่าเชื้อ ตามคำสั่งแพทย์ หลังเสริมจมูก เพราะบางครั้ง อาจจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดบริเวณจมูก บวมบริเวณใบหน้า โดยจะบวมมากที่สุด ใน 2-3 วันแรก
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เพื่อให้เซลล์ในร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ฟื้นตัวได้เร็ว
- เครื่องดื่ม ที่มีฤทธิ์ ช่วยให้ยุบบวม และสมานแผล เช่น น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก น้ำเต้าหู้ผสมฟักทอง
- รับประทานอาหาร ที่มีรสชาติอ่อน ไม่มีรสจัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป ก๋วยเตี๋ยว ถ้าทานอาหารรสจัด อาจจะมีน้ำมูกไหลออกมา เป็นบ่อสะสมของเชื้อโรค ที่จะนำไปสู่บาดแผลได้ง่ายขึ้น
- ในการดูแลผิวหน้า ให้ใช้สำลีแบบแผ่นชุบน้ำเปล่า น้ำเกลือ หรือใช้คลีนซิ่ง ทำความสะอาดได้
- สามารถประคบเย็น ด้วยผ้าเย็น เจลเย็น หรือถุงน้ำแข็งอย่างเบามือ บริเวณข้างแก้ม และหน้าผาก ห้ามทับบริเวณจมูกเด็ดขาด อาจจะทำให้จมูกเบียวได้ – นอนหัวตั้งสูง ป้องกันการเคลื่อนไหวของซิลิโคน
หลัง เสริมจมูก ห้ามทำอะไรบ้าง ?
- หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด โซเดียมสูง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะทำให้ร่างกายบวมน้ำ จมูกยุบบวมได้ช้า
- อย่าพึ่งให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเปล่า (ยกเว้นน้ำเกลือล้างแผล) จะทำให้แผลหายช้า และเน่าเปื่อยได้ ที่สำคัญเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เข้าสู่แผลได้ง่ายขึ้น
- ห้ามบีบจมูก บิด แคะ แกะ เกาจมูก ไม่ว่าจะรู้สึกคัน หรือแกะเกามากน้อยแค่ไหน อาจจะทำให้จมูกเบี้ยว และเอียง ต้องแก้จมูกใหม่ได้
- งดเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนทุกชนิด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้ มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดขยายตัว ส่งผลทำให้เลือดออกง่ายมากขึ้น และทำให้จมูกบวมได้
- ห้ามนอนคว่ำ หลังเสริมจมูก นอนตะแคงได้ไหม ท่านอนหลังเสริมจมูก ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรนอนยกศีรษะสูงประมาณ 30 องศา
หลัง เสริมจมูก ห้ามกินอะไร ?
- อาหารหมักดอง อาหารดิบ ๆ เช่น ปลาร้า แหนม ผักดอง ปูดอง อาจจะไม่สะอาด ทำให้แผลติดเชื้อได้
- อาหารเสริมวิตามิน E ใบแปะก๊วย วิตามินบางตัว ทำให้มีเลือดออกมาหลังผ่าตัด
- งดทานอาหารเสริมทุกชนิด
- อาหารรสเผ็ด อาหารรสจัดจ้าน ทำให้โพรงจมูก มีอาการบวม น้ำมูกไหล เป็นสาเหตุ ให้มีการติดเชื้อของแผลผ่าตัดได้
- อาหารที่มีรสเค็ม โซเดียมสูง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป จะทำให้บวมน้ำ จมูกยุบบวมช้า
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ติดต่อ MY SUPER CLINIC
หากคุณสนใจเข้ารับบริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ MSP Clinic ได้ทันที เวลาทำการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 11.30 – 20.00น.
- All
- Botox
- Filler
- Meso