ทำตา 2 ชั้น คืออะไร ?

ทำตา 2 ชั้น คือ การผ่าตัดสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ได้ชั้นตา ที่สวยงามเหมาะสม และตอบโจทย์ กับคนไข้มากที่สุด นอกจากนั้นยังสามารถแก้ไขปัญหา ในคนที่มีปัญหาตาเล็ก หางตาตก ชั้นตาหลบใน และภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้มีดวงตา ที่กลมโต สดใสขึ้น สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ทำตา, ตา 2 ชั้น, ทำตา 2 ชั้น

การศัลยกรรม ทำตา 2 ชั้น

ดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ คนที่มีดวงตา และโครงสร้างของดวงตาสวย จะเสริมบุคลิกภาพให้ดูน่าค้นหา และมีเสน่ห์มากขึ้น ปัจจุบันนี้การผ่าตัดศัลยกรรมตา เป็นอีกหนึ่งการทำศัลยกรรมตกแต่ง ที่ได้รับความนิยมรองลงมา จากการเสริมจมูก เพราะปัญหาตา และลักษณะโครงสร้างดวงตา ที่แตกต่างกัน ในแต่ละบุคคล มีผลต่อการใช้ชีวิต และการเข้าสังคมโดยตรง จึงทำให้ทั้งเพศชาย และหญิงยุคใหม่ หันมาใส่ใจ กับการทำศัลยกรรมดวงตากันมากขึ้น ทำตา เพื่อให้ดวงตาดูสวย เป็นธรรมชาติ เหมาะกับปัญหาตา และลักษณะโครงสร้างของแต่ละบุคคล

ผ่าตัด ทำตา 2 ชั้น ใช้เวลานานแค่ไหน ?

การผ่าตัดทำตา 2 ชั้น โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธี และความชำนาญของแพทย์ศัลยกรรม รวมถึงปัญหาของคนไข้ด้วยเช่นกัน

ผ่าตัด ทำตา 2 ชั้น เจ็บหรือไม่ ?

โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนการผ่าตัดทำตา 2 ชั้น แพทย์ผู้ทำการผ่าตัด จะทำการฉีดยาชาก่อนผ่าตัด ในระหว่างการผ่าตัดอยู่ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ ในระหว่างที่ยาชาออกฤทธิ์ แต่อาจจะเจ็บตอนฉีดยาชา และอาจจะมีอาการตึงเล็กน้อย หลังผ่าตัดได้

ทำตา, ตา 2 ชั้น, ทำตา 2 ชั้น
ทำตา, ตา 2 ชั้น, ทำตา 2 ชั้น

การทำศัลยกรรม ตา 2 ชั้น ทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ?

โดยทั่วไปแล้ว การทำศัลยกรรม ตา 2 ชั้น ควรทำในเพศชาย หรือเพศหญิง ที่มีการเจริญเติบโตของโครงสร้างทางด้านร่างกายเต็มที่แล้ว ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ถึงอย่างไร สามารถทำได้ในเด็กด้วยเช่นกัน

  • การทำศัลยกรรม ตา 2 ชั้น ร่วมกับการแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สามารถผ่าตัดรักษาได้เลย ตั้งแต่เด็ก
  • การทำศัลยกรรม ตา 2 ชั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรทำหลังอายุ 18 ปี เนื่องจากโครงสร้างด้านร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การยินยอมของผู้ปกครองด้วยเช่นกัน เพราะการทำศัลยกรรมความงาม และการผ่าตัดทำตา 2 ชั้น ในทางกฎหมาย ก็ต้องอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ถึงจะสามารถตัดสินใจทำได้ด้วยตนเอง
เสริมจมูก, ทำตา 2 ชั้น

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ตา 2 ชั้น เตรียมตัวอย่างไร ?

  1. ควรงดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนทำตาสองชั้น เพราะสิ่งเหล่านี้ มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด
  2. งดอาหารเสริม เช่น วิตามิน C วิตามิน E น้ำมันตับปลา และสมุนไพรต่าง ๆ 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด เพราะยาบางตัว มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
  3. กรณีมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ และทานยารักษาโรคอยู่ ควรแจ้งแพทย์ เพื่อปรึกษาขอคำแนะนำ และการดูแลที่ถูกต้อง
  4. ไม่ต้องงดอาหาร เนื่องจากการทำตา 2 ชั้น เป็นการผ่าตัดภายใต้ การใช้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น
  5. ควรงดทานยากลุ่มแอสไพริน ที่มีผลต่อการฟกช้ำ จากเลือดคั่ง หลังผ่าตัด
  6. งดใส่คอนแทคเลนส์ ในวันผ่าตัด
  7. ควรเตรียมแว่นตากันแดดมาด้วย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง หลังผ่าตัดเสร็จ
  8. กรณีทำงานประจำ ควรเตรียมวันหยุด หรือเตรียมลางาน หากเป็นไปได้ ควรพักหลังผ่าตัดทำตา 2 ชั้น อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตา และมีเวลาประคบแผลมากขึ้น แผลจะหายเร็วขึ้น
  9. ควรสระผมให้เรียบร้อย ก่อนผ่าตัด

ตาแบบไหน ที่ควรทำตา 2 ชั้น ?

  • คนที่มีลักษณะตาชั้นเดียว เช่น ดวงตาแบบอาตี๋ อาหมวย มีลักษณะเปลือกตาหนา จากไขมัน และหนังตาส่วนเกินเยอะ จนเบียดชั้นตา ทำให้มองไม่เห็นชั้นตา กลายเป็นตาชั้นเดียว
  • คนที่มีปัญหาตาหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน จะเกิดจากภาวะหนังตาตก ทับชั้นตา หรืออาจจะเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ทำให้ลืมตาไม่เต็มที่ อาจจะเปิดตาได้ไม่เท่ากัน จนส่งผลให้ชั้นตาไม่เท่ากันตามไปด้วย
  • คนที่มีปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน อาจจะเกิดจากหนังตา หรือโครงสร้างตาไม่เท่ากัน แต่กำเนิด หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จึงออกแรงยกเปลือกตาได้ลดลง
  • คนที่มีภาวะหนังตาตก หนังตาเกิน ไขมันเปลือกตาเยอะ เกิดจากหนังตาเกิน และไขมันเปลือกตาเยอะ ทำให้ตาดูเล็ก ตาหลบใน ตาไม่เท่ากัน
  • คนที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง ตาปรือ ตาดูง่วงนอน คนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ตาปรือ ตาดูง่วงนอน ตาไม่เท่ากัน ตาเป็นสามชั้น ภาวะเหล่านี้ ส่งผลให้ตาดูอิดโรย ไม่สดใส อาจจะทำให้ดูมีอายุได้
ทำตา, ตา 2 ชั้น, ทำตา 2 ชั้น

ทำไมต้องทำตา 2 ชั้น ?

ปัญหาเรื่องโครงสร้างของตา มีกันได้ทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนด้วย ซึ่งคนไข้บางคน ก็ไม่พอใจ เพราะทำให้บุคลิกภาพแย่ลง แต่บางคน อาจจะส่งผลต่อชีวิตประจำได้

หนังตาตก จนมองไม่สะดวก

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ตาปรือ ไม่สดใส เป็นต้น

เสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจ ช่วยในการเปลี่ยนลุค แต่งหน้าง่ายขึ้น เพราะชั้นตาชัดเจน ไม่ต้องพึ่งสติกเกอร์ติดชั้นตา

ดวงตา มีความสมดุล กับใบหน้ามากขึ้น

เทคนิคการทำตา 2 ชั้น มีอะไรบ้าง?

สำหรับการศัลยกรรมตา 2 ชั้น มีเทคนิคมากมาย ที่เหมาะกับลักษณะดวงตา ซึ่งมีหลายเทคนิควิธีดังนี้

  1. การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น ด้วยวิธีเลเซอร์ Plexr ยิงไปที่หนังตา ทำให้หนังตา มี 2 ชั้นขึ้นมา ทำให้สวยโดดเด่น เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาสองชั้น แต่มีหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก หรือต้องการแก้ไขเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รวมไปถึงคนที่ต้องการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น แต่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือกลัวการผ่าตัด
    – ช่วยแก้ไขปัญหาตา 2 ชั้น ไม่เท่ากัน ที่เป็นมาจากกำเนิด และปัญหาจากการทำศัลยกรรมมาแล้ว ได้ชั้นตาไม่เท่ากัน
    – ช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ที่ลงมาบดบังชั้นตา รบกวนการมองเห็น – ช่วยแก้ปัญหาให้ กับคนที่มีรอยย่น บริเวณเปลือกตา หรือมีริ้วรอยใต้ตา
    – ช่วยแก้ปัญหาแผล เป็นรอยหลุ่ม หรือรอยแตกลาย
    – ช่วยลดไขมัน บริเวณเปลือกตา ทำให้ชั้นตา ที่ได้รูปสวย
  2. ศัลยกรรมตา 2 ชั้น ด้วยเทคนิคกรีดตายาว ตัดหนังตาส่วนเกิน โดยแพทย์ จะกรีดเปิดหนังตาบน ตั้งแต่หัวตาไปถึงหางตา ตำแหน่งของรอยกรีด จะเป็นตำแหน่งของชั้นตา ที่ต้องการ และรอยกรีด จะเป็นรอยของชั้นตา ที่เกิดขึ้นใหม่
  3. การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น เป็นเทคนิคการเปิดแผลขนาดเล็ก ไม่มีการตัดหนังตา หรือไขมันเปลือกตาเกินออกด้วย และใช้ไหมเย็บชั้นตา ทำให้เกิดชั้นตา ที่คมชัด ดูเป็นธรรมชาติ
  4. เทคนิคการทำตา 2 ชั้น ร่วมกับการเปิดหัวตา เป็นการผ่าตัดตกแต่งหนังตา ที่เปิดบริเวณหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาดูกว้างขึ้น รูปร่างตาดูยาวขึ้น ความโค้งของชั้นตา บริเวณหัวตา ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
  5. เทคนิคการทำตา 2 ชั้น แบบเย็บ 3 จุด เป็นการทำตาสองชั้น โดยไม่ต้องกรีด ใช้วิธีเย็บที่เปลือกตา ด้วยการเจาะเป็นรู ที่เปลือกตา 3 จุด ไม่เป็นแผลกรีด แต่ใช้ไหมเย็บยึดระหว่างจุด ทำให้เกิดรอยพับชั้นตา ที่เป็นธรรมชาติ
  6. เทคนิคการทำตา 2 ชั้น ปลายหางหงส์ แพทย์จะใช้วิธีการกรีดเปลือกตา ไปยังหางตา และยกหางตาให้เฉียงขึ้น เพื่อให้หางตาเปิด และตวัดเชิดขึ้น เทคนิคนี้ เหมาะกับคนที่มีปัญหา หางตาตก ชั้นตาหลบใน ตาชั้นเดียว คิ้วตก หนังตาตก และหนังตาหนา
เสริมจมูก, ทำตา 2 ชั้น

วิธีการดูแลหลังเข้าผ่าตัดตา 2 ชั้น

การผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างของตาให้ดูสวย ตรงตามความต้องการของคนไข้ จะมีความสำคัญไม่ต่าง จากการผ่าตัดส่วนอื่น ๆ เพราะการเตรียมตัวก่อนรับการผ่าตัด ที่ถูกต้อง คนไข้จะต้องทำการศึกษา การปฏิบัติตัวทั้งก่อน และหลัง ให้ถูกต้องตามคำแนะนำของแพทย์

  1. หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก สามารถประคบเย็นได้ แต่ไม่ควรกด ที่บาดแผลโดยตรง หากมีเลือดซึม สามารถใช้ผ้าก๊อซ กดที่แผลได้ จนกว่าจะหยุดไหล
  2. หลังผ่าตัด 3-5 วัน ให้ประคบด้วยน้ำอุ่น เพื่อลดอาการบวม บางคนอาจจะมีรอยฟกช้ำ การประคบ จะช่วยให้หายเร็วขึ้น เพราะความร้อน จะกระตุ้นหลอดเลือดขยายตัว ให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
  3. ให้นอนศีรษะสูงกว่าปกติ ใน 1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
  4. ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำประมาณ 3 วัน สามารถล้างด้วยน้ำเกลือสะอาดได้ ทำความสะอาดแผล วันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
  5. ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้ง ที่แผลบ่อย ๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เพื่อลดภาวะแทรกซ้อน หรือแผลติดเชื้อ
  6. รับประทานยาฆ่าเชื้อ และยาลดบวม ตามที่แพทย์จัดให้ หากมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  7. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหมักดอง ไข่ อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
  8. ยาละลายลิ่มเลือด หรือวิตามิน ที่หยุดกิน ก่อนผ่าตัด สามารถกินได้ หลังผ่าตัด 3 วัน หรือไม่มีเลือดซึมออกแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ติดต่อ MY SUPER CLINIC

หากคุณสนใจเข้ารับบริการ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ MSP Clinic ได้ทันที เวลาทำการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 11.30 – 20.00น.

Or